- กฎแห่งกรรมไม่หมดอายุPosted 9 hours ago
- อย่าหัวชนฝาPosted 1 day ago
- เปลี่ยนเป็นตลาดการค้าไวๆPosted 2 days ago
- มนุษย์เกิดมิคสัญญีที่ใจPosted 3 days ago
- ระวังเพื่อความปลอดภัยPosted 4 days ago
- ขอให้ฮึดสู้Posted 1 week ago
- สยบพวกอันธพาลให้ได้Posted 1 week ago
- อย่าทำอะไรมักง่ายPosted 1 week ago
- ผ้าเหลืองห่อเปรตPosted 1 week ago
- จงตั้งใจเรียนเพื่อพ่อแม่Posted 2 weeks ago
ยุคบวชพระ-เณรหด
คอลัมน์ : สำนัก(ข่าว)พระพยอม
ผู้เขียน : พระพยอม กัลยาโณ
(โลกวันนี้รายวัน ประจำวันที่ 8 ส.ค. 62)
ปีนี้มีลูกหลาน กุลบุตร เข้ามาบวชในพระพุทธศาสนาน้อยมาก น้อยชนิดที่ไม่เคยมีมาก่อน โดยเฉพาะที่วัดสวนแก้วไม่มีพระใหม่แม้แต่รูปเดียว มีแต่พระเก่า ไปถามวัดอื่นก็เช่นเดียวกัน ในเขตอำเภอบางใหญ่เคยมีพระถึง 100-150 รูป ปีนี้มีไม่ถึง 100 รูป บางคนบอกว่าเพราะความศรัทธาของคนลดลง ที่จริงก็มีมาบวชเยอะ บวชกันเกือบ 10 รูป แต่สึกหมด ไม่มีใครบวชเอาพรรษา บวชแค่ 7 วัน 5 วันก็สึกแล้ว ถือเป็นเรื่องที่น่าอเนจอนาถใจ
เป็นเรื่องที่คิดไม่ถึงว่า สมัยก่อนประชากรไทยมี 17 ล้านคน มีพระเณรตั้ง 5-6 แสนรูป แต่เดี๋ยวนี้เณรแทบไม่มี วัดสวนแก้วไม่มีเณรมาบวชหลายปีแล้ว บวชแค่ภาคฤดูร้อนแล้วก็หมดไป คนมาติดต่อก็หายไป เขาอ้างว่าระเบียบของศาสนาเดี๋ยวนี้ถ้าจะบวชต้องไปแจ้งตำรวจ ไปตรวจดูว่ามีคดีอะไรหรือไม่ ซึ่งเป็นการสกรีน เป็นการกันคนไม่ดีที่มาอาศัยผ้าเหลือง อาศัยพระศาสนาเป็นที่ฟอกตัวคดีต่างๆ นี่เป็นเหตุหนึ่งที่ทำให้การบวชของลูกผู้ชายไทยลดหายไปเป็นจำนวนมาก
เมื่อก่อนที่วัดสวนแก้วมีคนมาบวช 50-60 คน บางปี 60 กว่าคน แต่ตอนนี้เหลือน้อยมาก แทบไม่มีเลย แต่ก็มีบ้างบางวัด เช่น วัดที่มีเมรุ มีศพ มีอะไรที่เป็นรายได้ ลาภสักการะ ที่น่าอุ่นใจเห็นจะเป็นวัดที่มีโรงเรียน มีการศึกษาเรียนรู้หลายเรื่องทั้งทางโลก ทางธรรม นั่นก็จะมีพระเป็นร้อยรูป แต่ที่น่าใจหายคือ วัดบ้านนอกบางวัดทางภาคเหนือเรียกว่าลด หดหายไปอย่างน่าใจหาย
ไม่ใช่แค่วัดสวนแก้ววัดเดียว วัดอื่นก็เป็นเหมือนกัน วัดหนึ่งมีไม่เกิน 10-20 รูปที่เข้ามาบวชใหม่ นอกนั้นหายไปอย่างที่เรียกว่าผิดหูผิดตากันเลย อาจเป็นเพราะว่าคนที่ทำงานโรงงาน โรงงานเขาไม่ให้บวช เพราะเครื่องจักรต้องเดินตลอดเวลา คนต้องทำงานมากมายเลยไม่เหลือเวลาให้กับศาสนา ซึ่งเป็นเรื่องน่าเป็นห่วงว่าอายุพระศาสนาจะทำอย่างไร เพราะเรามีการบวชแบบประเพณี 7 วัน 15 วัน บวชเอาพรรษาแทบจะไม่เหลือกันแล้ว ต้องเรียกว่ายุคสมัยเปลี่ยนไป ความเลื่อมใสศรัทธาต่อพระพุทธศาสนาก็น้อยลงไป
แต่จะว่าไปมีสิ่งที่แปลกแต่ดีก็คือ คนที่มารักษาศีลเป็นเด็กหนุ่มสาวมากขึ้น ซึ่งไม่เคยมีมาก่อน สมัยก่อนมีแต่คนแก่ๆ ในช่วงเข้าพรรษานี้มีคนอายุ 20-20 กว่าปี มากันหลายคน เลยทำให้มองอีกมุมหนึ่งว่าก็ยังมีส่วนชดเชยบ้าง ถึงแม้ไม่ได้บวชเป็นพระเป็นเณร แต่ก็มาถือศีลอุโบสถกันมากพอสมควรเลยทีเดียว ทำให้พอมีเรื่องปลาบปลื้ม มีความหวังว่าพระศาสนาคงจะไม่อายุสั้น คงจะอยู่เป็นที่พึ่งของสัตว์โลกได้ต่อไป และหลายวัดคงพยายามทำสถานที่ปฏิบัติธรรมให้เป็นที่อยู่ ไม่ใช่มีแต่กุฏิพระเณร เดี๋ยวนี้มีกุฏิสำหรับญาติโยมที่มาประพฤติปฏิบัติธรรมกันด้วย
เจริญพร
You must be logged in to post a comment Login